“นับจริงๆก็แซงแล้ว” เปิดเผยเบื้องหลังที่ทำให้ คาร์โล อันเชลอตติ คุมทีมชนะมากที่สุดใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แซงตำนานกุนซือแมนยูฯ
วันที่ 3 พ.ย. 2565 ออปตา ผู้บันทึกสถิติชั้นหนึ่งของวงการบอล เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจหลังเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กรุ๊ปเอฟ ซึ่ง เรอัล มาดริด เปิดบ้านชนะ กลาสโกว์ เซลติก 5-1 ทำให้ “ราชันชุดขาว” เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กรุ๊ป เหนือกว่า แอร์เบ ไลป์ซิก ที่จบอันดับ 2 มี 12 คะแนน
ทำให้ คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด
ได้รับการบันทึกว่าสามารถคุมทีมคว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 102 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เทียบเท่ากับสถิติสูงสุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แม้กระนั้น ออปตา ได้มีการเสริมข้อมูลเพิ่มเติมว่าการคุมทีมชนะ 102 ครั้งใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ของ อันเชลอตติ ยังไม่นับรวมอีก 1 ครั้งที่ สมาพันธ์บอลยุโรป (ยูฟ่า) ตัดสินให้ เอซี มิลาน เป็นผู้ชนะ อินเตอร์ มิลาน 3-0 ในช่วงฤดูกาล 2004-05 รอบ 8 ทีม เลก 2 ซึ่งเกมนั้น อินเตอร์ มิลาน ถูกปรับแพ้ เพราะว่าแฟนบอลเหวี่ยงดอกไม้ไฟไฟลงมาในสนาม และโดนตัว ดีดา ผู้รักษาประตู เอซี มิลาน ด้วย ทำให้จำเป็นต้องยุติการแข่งขันในนาทีที่ 72 ในขณะที่ “ปิศาจแดงดำ” นำอยู่ 1-0
ถ้าหากนับรวมเกมดังกล่าวด้วย จะก่อให้ อันเชลอตติ ชนะในฐานะผู้จัดการทีม 103 ครั้งใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
แซงหน้า “เฟอร์กี้” ทันที อย่างไรก็ดี ยูฟ่า ยังไม่ประกาศรับรองสถิตินี้ แต่ยอดผู้จัดการทีมชาวอิตาลียังมีโอกาสทำลายสถิติอย่างเป็นทางการ ถ้าหากชนะอีก 1 เกมในรอบ 16 ทีม ที่จะชิงชัยในระบบเหย้า-เยือน
สำหรับ คาร์โล อันเชลอตติ ถือเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อย่างแท้จริง ซึ่งเขาเป็นเพียงคนเดียวที่คุมทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 4 สมัย แบ่งเป็น เอซี มิลาน 2 สมัย (2002-03 กับ 2006-07) และ เรอัล มาดริด อีก 2 สมัย (2013-14 และ 2021-22) และเข้ารอบชิงแชมป์ได้ถึง 5 ครั้ง โดยพลาดแชมป์คราวเดียวในช่วงฤดูกาล 2004-05 ด้วยการดวลจุดลูกโทษแพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 หลังเสมอในเวลา 120 นาที ด้วยสกอร์ 3-3