เปิดไทม์ไลน์ คนร้ายโหดเหี้ยม กดแอปฯ เรียกโชเฟอร์หญิง ก่อน ฆ่าชิงทรัพย์ รถ “แกร็บ ประเทศไทย” ออกแถลงการณ์ ผู้เสียชีวิตไม่ใช่พาร์ทเนอร์บริษัท
แม่หมู หรือ นางเกศยุคล อายุ 50 ปี หายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 14 เดือนมกราคม 2566 เวลาราวๆ 12.48 น. โดยขับขี่รถเก๋ง สีบรอนซ์เงิน ออกไปรับผู้โดยสารบริเวณ จากแฟลตปลาทอง ตึก315 รังสิต จ.ปทุมธานี ไปส่งที่ในพื้นที่ อำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี
แล้วหลังจากนั้นทางญาติของแม่หมู ไม่สามารถที่จะติดต่อแม่หมูได้อีก ก็เลยได้ประกาศตามหา สุดท้ายตำรวจสืบหา เจอแม่หมูถูกฆาตกรรมชิงทรัพย์
15 ม.ค. 2566 เวลาโดยประมาณ 18.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง จับตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณแฟลตปลาทอง รังสิต ทราบชื่อ นายวีระณภูมิ หรือ อู๋ อายุ 21 ปี มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา หนีรับราชการทหาร เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ ใช้เชือกรัดคอเหยื่อจนตาย!
ล่าสุด วันที่ (16 มกราคม 2566) เวลาโดยประมาณ 13.30 น. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ติดตามรถเก๋งของกลาง กระทั่งเจอ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจสอบ พร้อมเก็บลายนิ้วมือแฝง
และ หลักฐานต่าๆ ที่เกี่ยวโยงกับคดี ร่วมถึงนำเชือกที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ นำมาจำลองเรื่องราว เป็นเวลายาวนานกว่า 2 ชั่วโมง
หลังจำลองเหตุการณ์แล้ว ในเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พร้อมกับ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง แถลงข่าวจับตัว นาย วีรัณัฐภูมิ พร้อมหลักฐาน รถเก๋งสีบรอนซ์เงิน และก็ เชือกที่ใช้สำหรับการก่อเหตุ ที่ สภ.บางบัวทอง

โดย พล.ต.ต.ไพศาล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พูดว่า
“พฤติกรรมของนาย วีระณัฐภูมิ หรือผู้ต้องหาได้ให้การว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 66 ได้เรียกใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง โดยระบุว่าต้องเป็นผู้หญิงเพราะจะให้ไปรับแฟนสาวที่แฟลตปลาทอง รังสิต จังหวัดปทุมธานี ไปส่งที่หมู่บ้านพฤกษ์ลดา แต่เมื่อถึงจุดนัดรับ กลับมีเพียงผู้ต้องหาที่ขึ้นรถโดยไร้ซึ่งแฟนสาวที่อ้างถึง หลังผู้ตายขับรถถึงจุดหมาย ผู้ต้องหาไม่ยอมลงจากรถ ออกอุบายให้ผู้ตายขับรถไปส่งต่อหมู่บ้านเดอะวิลล่า บางบัวทอง
รถจอดลงที่ หมู่บ้านย่านบางบัวทอง วินาทีนั้นผู้ต้องหาจึงใช้เชือกรัดคอผู้ตายจนเสียชีวิตภายในรถ และใช้เชือกที่รัดคอเอามามัดมือมัดขาของผู้ตาย จากนั้นจึงนำศพไปทิ้งในป่าข้างทางภายในซอย วัดท่าเกวียน ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ค้นตัวผู้ตายได้เงินสดมาจำนวน 200 บาท โทรศัพท์ 1 เครื่องนำไปขายได้เงินมา 3,500 บาท ส่วนรถผู้ตาย ผู้ต้องหาได้นำไปขายให้กับคนรู้จักผ่านนายหน้าขายรถ 3 คน ในวันต่อมา (15 ม.ค. 66)
โดยในวันที่นำรถไปขาย ผู้ต้องหาได้ไปรับ น.ส.ปนัดดา ซึ่งเป็นแฟนสาวนั่งรถไปด้วย และได้อ้างกับแฟนสาวว่าเป็นรถของพ่อให้นำไปขาย จุดนัดรับรถคือ ปั๊มน้ำมันย่าน ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งตกลงราคาขายรถกันที่ 40,000 บาท แต่ผู้ต้องหาได้รับเงินเพียง 25,000 บาท ส่วนต่างอีก 15,000 บาท ถูกหักให้กับนายหน้า 3 ราย ”
ส่วน น.ส.ปนัดดา แฟนสาวของผู้ต้องหา จากการสอบปากคำเบื้องต้น ยังให้การปฏิเสธ ว่ามีส่วนรู้เห็น หรือร่วมวางแผน กับตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด ภายหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการสอบสวนขยายผลต่อไป
ทางด้าน แกร็บ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ในกรณีที่มีความเข้าใจผิด เกี่ยวกับเหตุ ฆ่าชิงทรัพย์ ที่เกิดขึ้น
กับผู้ขับเพศหญิง ซึ่งให้บริการเรียกรถยนต์นั่งส่วนตัว ผ่านแอปพลิเคชัน โดยบอกว่า
จากกรณีที่มีสื่อมวลชนได้นำเสนอรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นกับคนขับเพศหญิงรายหนึ่งซึ่งให้บริการเรียกรถยนต์ส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน โดยระบุว่าเป็นพาร์ทเนอร์ “คนขับแกร็บ” หรือให้บริการ “แกร็บคาร์เลดี้” นั้น แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงว่า ภายหลังการตรวจสอบข้อมูล ทั้งชื่อและนามสกุล รวมถึงทะเบียนรถที่ปรากฏตามรายงานข่าว ไม่พบข้อมูลของผู้เคราะห์ร้ายในฐานข้อมูลพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ โดยบริษัทฯ ได้ประสานงานเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินคดีทันทีตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอยืนยันว่า ในฐานะผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งได้รับการรับรองแอปพลิเคชันสำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จากกรมการขนส่งทางบก แกร็บให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ และกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทั้งผู้ใช้บริการและพาร์ทเนอร์คนขับ